Follower ครบ เรียนจบวิชาแน่ … เฮ้ย!!

Posted: มีนาคม 4, 2011 in ข่าวฮาไม่ออก, เตือนสติชาวทวิตภพ
ป้ายกำกับ:,

เดี๋ยวนี้ Social Media ต่างๆ โดยเฉพาะ Facebook กับ Twitter ถูกเอาไปใช้ในแวดวงการตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ หลายแบรนด์ หลายๆ องค์กรที่ไม่เคยมี พอเห็นคนอื่นเขามีก็เลยเอาบ้าง … เรียกว่า เห็นช้างขี้ต้องรีบไปขี้ตามช้าง ว่างั้น และด้วยความที่ว่า นำไปใช้ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่มีความรู้ความเข้าใจใน Social Media ไม่รู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ เลยทำให้เราได้เห็นแผนการณ์ตลาดเห่ยๆ กันเยอะแยะตาแป๊ะไก่มาก

ล่าสุด สงสัยมันจะไม่จบแค่แวดวงการตลาดแล้วล่ะ เพราะจากประสบการณ์ตรง และประสบการณ์ทางอ้อมของผม ผมพบว่า มีอาจารย์ในประเทศไทยท่าน หยิบฉวยมันมาใช้ประกอบการเรียนการสอนด้วย และเช่นกัน ใช้ในวิธีการที่ชุ่ยเอามากๆ ด้วยสิ

มันเริ่มจากตอนที่ผมไปเห็นคนมา Follow ผม ซึ่งด้วยสันดานของผม ผมจะดูทุกคนว่าเป็นใครมาจากไหน (เพราะถ้าเป็นพวก Bot ชาวฝรั่ง ผมจะบล็อกโดยบัดดล) ทำให้ผมสังเกตว่า คนคนนี้มี Bio ว่า “ช่วยกด follow” ป๋มหน่อยนะคับ มันเป็นคะแนนที่ต้องส่งอาจารย์ก่อนจะจบ ป. ตรี

image

อ้าว เฮ้ย!! อาจารย์เล่นง่ายอ่ะ คะแนนส่งก่อนจบ ป. ตรี เอาแบบนี้กันเลยเหรอ Follower เยอะ แล้วจะได้คะแนนเยอะเหรอ? วิชาอะไรกันวะเนี่ย?!?

นั่นคือเรื่องเมื่อหลายวันก่อน ซึ่งผมได้ลืมๆ มันไปแล้ว ไม่คิดอะไรมาก เพราะตอนนี้ น้องคนนี้เขาก็ไม่มี Twitter ID ดังกล่าวแล้ว (หรือว่าเปลี่ยนชื่อไปก็ไม่อาจทราบได้) … จนกระทั่งวันนี้ เจอประสบการณ์ทางอ้อม เป็นภาพหน้าจอโปรแกรม Twitter Client ตัวนึงของรุ่นน้องของผม ที่อยู่บน Flickr … หมดเขต 6 มี.ค. 54 ถ้า Follower ไม่ครบ 200 คน จะโดนอาจารย์ปรับตก

image

เฮ้ย!! อีกรายแล้ว อาจารย์ที่ไหนวะเนี่ย …

วันนี้ผมอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” โดย ลม เปลี่ยนทิศ บนหนังสือพิมพ์ไทยรัฐหน้า 5 … ลม เปลี่ยนทิศ จั่วหัวไว้ว่า “ความสุขคนไทยที่หายไป” แต่ใจความสำคัญเขาเขียนถึงเรื่อง “การศึกษา” โดยมีเนื้อหาคร่าวๆ ว่า จากรายงานของสภาพัฒน์ประจำปี 2553 (ภาพรวมทั้งปี และเฉพาะไตรมาสที่ 4) คุณภาพการศึกษายังตกต่ำ ยิ่งเมื่ออ้างถึงผลการจัดอันดับของ International Institute for Management Development (IMD) ที่ผ่านมา ว่ากันว่าประเทศไทยติดโซนรั้งท้ายเลยครับ โดย ภาพรวมอยู่อันดับที่ 47 จาก 58 ประเทศที่เข้าร่วมการประเมิน!!

พิจารณาจากการให้การบ้านของอาจารย์แล้ว (ผมไม่แน่ใจว่าเป็นอาจารย์ท่านเดียวกันหรือไม่) ประกอบกับสิ่งที่ได้อ่านจากคอลัมน์ของ ลม เปลี่ยนทิศ … หดหู่อ่ะ

นี่ตกลง มาตรฐานการศึกษาของไทย ในบางวิชา (ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าวิชาอะไร) มันอาศัยแค่ Follower ครบ จบแน่ แล้วเหรอวะ?

*** อัพเดตเพิ่มเติม ***

มีคนตั้งข้อสังเกตว่า

  • เป็นเพราะนักเรียนหมั่นไส้ หรือไม่พอใจอาจารย์หรือไม่ เลยได้ออกมามุกนี้ เพราะเคยมีประสบการณ์เวลาเด็กไม่พอใจอาจารย์คนใด ก็จะยุให้อาจารย์อีกคนไปหาเรื่องอาจารย์คนที่ไม่พอใจ … ประเด็นนี้น่าสนใจครับ แต่หากเป็นแบบนี้ ท้ายที่สุด มันจะต้องมีชื่อของอาจารย์ท่านนั้น วิชาที่อาจารย์สอน และสถาบันที่อาจารย์สอนหลุดออกมาด้วย (ไม่อย่างนั้นจะไปเล่นงานอาจารย์ท่านนั้นได้อย่างไร) เพราะแม้ว่าสุดท้ายจะจบลงว่าเป็นเรื่องโอละพ่อ ชื่อเสียงของอาจารย์ท่านนั้นบน Social Media คงไม่ดีแน่ๆ … ต้องรอดูครับว่าจะมีการพูดถึงชื่อหรือสถาบันหรือไม่
  • เป็นมุกใหม่ในการหา Follower เพิ่มหรือไม่ … ถ้าพิจารณาจากคนก่อนที่ผมประสบกับตัวโดยตรง เขาเลิกเล่น (หรืออาจเปลี่ยนชื่อ Twitter ID) ไปแล้ว ดังนั้นบั้นปลายก็คือ จำนวน Follower ที่หามาได้ มันก็ไม่มีความหมาย ซึ่งก็นึกแรงจูงใจไม่ออกว่าจะทำไปเพราะเหตุใดครับ

*** อัพเดตเพิ่มเติม ***

image

คินดะอิจิ: “ในที่สุด ปริศนาก็ไขกระจ่างแล้ว”

image

โคนัน: “ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว … และคุณก็คือ…”

อย่างที่พ่อสองนักสืบบอกนั่นแหละครับ ในที่สุดเพื่อนๆ ชาวทวิตเตอร์ก็สามารถค้นจนเจอแล้วว่า อาจารย์ที่สั่งงานให้นักศึกษาไปหา Follower มานั้นคือใคร สอนมหาวิทยาลัยอะไร … ผมไม่ขอพูดถึงชื่อ หรือมหาวิทยาลัยที่สอนนะครับ แต่ขอพูดถึงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ดังกล่าว

เรื่องของเรื่องคือ อาจารย์อยากให้นักศึกษาได้เรียนรู้ ได้รู้จักทวิตเตอร์ แต่เพื่อที่จะวัดผลได้ว่าเล่นเป็นหรือไม่ เล่นจริงหรือไม่ ก็เลยวัดจากจำนวน Follower ครับ โดยอนุมานว่า ถ้าเล่นเป็น และเล่นเก่งพอ ก็จะหา Follower ได้เยอะ (ตรงนี้อาจเพราะตั้งข้อสังเกตจากเหล่า Influencer ต่างๆ นั่นเอง)

แต่บังเอิญว่ามีนักศึกษาบางคนที่ออกอาการเอ้อระเหยลอยชาย (สมัยเรายังเด็กๆ ก็ทำบ่อย ใช่ไหมล่ะ ใกล้ๆ จะส่งงานค่อยมานั่งปั่นกัน) ทีนี้ปัญหาคือ การหา Follower บน Twitter มันไม่ได้หากันได้ง่ายๆ เหมือนการปั่นรายงานส่งอาจารย์วันสุดท้าย ผลก็คือมาจบลงที่มุกการหา Follower มาตรฐานนั่นเอง … แถมมีการบอกด้วยนะว่า หาได้ไม่ครบจะโดนปรับตก

ประเด็นนี้ผมมองว่า นักศึกษาก็ทำไม่ถูก … อาจารย์เองก็หาเครื่องมือวันผลการปฏิบัติของนักเรียนที่ไม่เหมาะสม เพราะจำนวน Follower นั้นไม่ได้เป็นเครื่องมือวัดเลยว่า นักศึกษาคนนั้นรู้จัก Twitter ดีแค่ไหน หรือเล่นเป็นหรือไม่อย่างไรครับ … จบลงด้วยการที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว และเสนอแนะวิธีการปรับปรุงงานในส่วนนี้ให้กับอาจารย์ไปครับ

เรื่องก็เอวังด้วยประการฉะนี้นี่เอง

ความเห็น
  1. Chutchapol พูดว่า:

    อ่านแล้วหดหู่ด้วย เหมือนเป็นวงจรอุบาทว์ที่ทำให้ประเทศเราไม่ไปไหน และแพ้ในเวทีสากลในที่สุด…

    • นายกาฝาก พูดว่า:

      ปัญหาคือ เรื่องมันเล็กๆ และไม่มีใครหยิบมาเป็นประเด็น สุดท้ายก็จบลงด้วยการไม่มีอะไรเกิดขึ้น และอาจารย์ก็คงทำแบบนี้ต่อไป

  2. ajchukiat พูดว่า:

    ประเด็นที่สำคัญที่สุดคือนโยบายของผู้บริหารในสถาบันนั้นๆ เน้นไปที่ใดและต้องการให้เกิดผลอะไร เช่น นโยบายไม่มีการซ้ำชั้น ทั้งๆที่เด็กไม่พร้อมที่จะจบ ไม่ได้เน้นคุณภาพแต่เน้นที่ปริมาณ เป็นต้น การช่วยตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ดี ถึงแม้จะจริงหริไม่ก็ตาม แต่จะทำให้คนที่กำลังจะทำ ได้ฉุกคิดไว้บ้างนะครับ

  3. บจ. พูดว่า:

    สมมติครับ : น.ศ. ขอ Follower แลกเกรด แล้วเรารับเขา-แนะนำ ดูทวิตเขาว่าเจ๋งพอไหม หากดีเราก็เป็นผู้สนับสนุนเยาวชนไทยใช้โซเชียลทางดี 🙂

    ขอ Fllwr แลกเกรดก็มีมุมดีนะ ไม่ให้เขามาที่นี่จะให้เขาไปเล่นเกมส์ ติดยา แวนซ์รึ ถ้าเราเพิกเฉยเอง เราจะไปว่าอะไรเขาไม่ได้นะ 🙂

  4. Taishici พูดว่า:

    ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าเป็นเรื่องที่แย่มากๆ หากเป็นจริงในสังคมไทย และตัวผมเองก็รับไม่ได้เป็นอย่างมาก แต่ความจริงยังไม่ปรากฎและยังไม่มีการพสูจน์ จึงยังบอกไม่ได้ว่าเป็นจริงหรือไม่ ผู้สอนหรือนักศึกษาเป็นผู้ทำ แต่ขอให้ข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาดังนี้

    การให้เกรดนักศึกษาแต่ละครั้งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยปกติจะมีกระบวนการหลายขั้นตอนและการประชุมก่อนออกเกรดทุกครั้ง
    อยากให้หลายท่านมองอีกมุมว่า ถ้าหากเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เป็นจริงจะเกิดอะไรขึ้น สถาบันการศึกษา ครู อาจารย์ ซึ่งเป็นสถาบันในการสร้างความรู้ของประเทศ เสื่อมเสียความศรัทธาลงเป็นอย่างมาก และแม้หากเป็นความจริงบทลงโทษทั้งในระบบและนอกระบบจากสังคมมีอยู่แล้ว

    แต่เท่าที่ติดตามอ่านหลายคนมุ่งไปที่คำถามว่า อาจารย์ที่ไหน สถาบันไหน หรือแม้แต่บางครั้งมีการตัดสินใจไปแล้วโดยเข้าใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความจริง ทั้งที่ความจริงยังไม่ปรากฎหรือมีการพิสูจน์ รอสักหน่อยจะดีกว่าไหม หากเป็นจริงผมเชื่อว่าบทลงโทษจากสังคมรุนแรงมากแน่ๆ แต่อย่างที่กล่าวหากไม่เป็นจริงล่ะ ศรัทธาที่เสียไป มันดึงกลับมายากมากครับ

    คำถามต่อมาคือมันคุ้มไหม? กับสิ่งเป็นจริงและไม่เป็นจริง อยากให้มองเป็นกลางๆ ก่อนความจริงจะได้รับการพิสูจน์

  5. CrazyiPod พูดว่า:

    การใช้วิธีนี้ยังไงก็ดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่ การหา follower แบบนี้ สงสัยอาจจะเป็นข้ออ้างในการหา follower เยอะๆ ถ้าเป็นเรื่องจริง เค้ายอมที่จะบอกว่าเป็นงานใคร จากที่ไหนก็ให้รู้ๆ กันไปเลย จะได้ไม่ต้องกังขาว่า ขอไปเพื่ออะไร

  6. นักศึกษา พูดว่า:

    ในความเห็นของเรานะ เราว่ามันแล้วแต่ในความคิดของใคร ว่าจะคิดยังไงแต่สำหรับเรามันก้อไม่ได้เสียหายอ่ะไรหนิ มันเป็นแค่งานที่นักศึกษาจะต้องทำส่งอาจารย์ แล้วมันก้อไม่ได้มีแค่งานนี้งานเดียวที่ต้องส่งในปลายเทอม คุณมีสิทธิ์อะไรที่จะไปว่าพวกเค้า อีกอย่างถ้าคิดในทางที่ดี มันก้อสนุกดีไม่ใช่เหรอ เพราะว่าเราก้อได้เรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆที่อาจารย์ให้ทำ แล้วคุณได้ดูไอเดียของเค้าหรือยังว่าเค้าทำอะไรในงานนั้น หรือเพียงแต่อยากจะด่า อยากจะวิจารณ์ก้อทำได้

    • นายกาฝาก พูดว่า:

      อย่างที่ได้อัพเดตนะครับ ผมได้คุยกับอาจารย์ท่านนั้นแล้ว และได้ทราบถึงไอเดียแล้ว และได้เสนอความเห็นแล้วครับ … และผมก็ยังมีข้อวิจารณ์ถึงประเด็นดังกล่าวตามที่เขียนในบล็อกนี้อยู่ดีครับ 🙂

ใส่ความเห็น